ถ้าจะพูดถึงวงการ LGBTQIA+ ในประเทศไทย บอกเลยว่าไม่มีคำว่า “จืด” โดยเฉพาะกลุ่มเกย์และกะเทยที่เป็นเหมือนตัวแม่แห่งสีสันและพลังบวก ที่ไม่ได้บวกแบบสุขุมวิท11 หรือแถวรังสิตนะคะ ซึ่งไลฟ์สไตล์ของชาวเราก็ไม่ได้มีแค่การแต่งตัวเป๊ะปังหรือปาร์ตี้สุดเหวี่ยงเท่านั้น แต่ยังเต็มไปด้วยเรื่องราวที่น่าสนใจ ความคิดสร้างสรรค์ และบทเรียนชีวิตที่เราทุกคนสามารถหยิบไปใช้ได้ในบางเรื่อง
1. แฟชั่นต้องมาเป็นที่หนึ่ง
บรรดาเกย์และกะเทยบ้านเรานี่แหละคือผู้นำเทรนด์ตัวจริง ไม่ว่าจะเป็นลุคสายสตรีทใส่เสื้อครอปโชว์เอวคอดเว้าเป็นาฬาบิ๊กเบน หรือสายแซ่บแบบแดร็กควีนที่ขนตายาวจนปัดแก้มเพื่อนข้าง ๆ ได้ แฟชั่นสำหรับของชาวเรามันเหมือนการเล่าเรื่อง ไม่ใช่แค่ใส่เสื้อผ้า แต่เป็นการบอกตัวตน บอกอารมณ์ และบางครั้งก็บอกสถานะว่าตอนนี้โสด คันปิ อยากมีผัว ไม่เชื่อลองไปเดินแถวสีลมดูค่ะ
2. ชีวิตคือปาร์ตี้ และการดูแลตัวเอง
ถ้าพูดถึงปาร์ตี้ เกย์และกะเทยไทยก็ไม่แพ้ชาติใดในโลก จากบาร์เล็ก ๆ ในซอย 2 ไปจนถึงงานแดนซ์ใหญ่ ๆ ที่ทุกคนปลดปล่อยเต็มที่ แต่ที่เจ๋งกว่านั้นคือหลายคนในวงการนี้ก็จริงจังกับการดูแลตัวเองมาก ๆ ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกายให้หุ่นเป๊ะ skincare routine ที่ยาวเหยียด หรือแม้แต่การเช็คสุขภาพประจำปี เพราะเพราะสวยให้ห้ามั่นหน้าให้สิบ เรื่องการดูแลกายภาพหนังหน้าของชาวเราก็ได้รับการขนานนามจากบรรดาชายจริงหญิงแท้มาตลอด
3. ดราม่าและมิตรภาพแบบขาดไม่ได้
ชีวิตของเกย์และกะเทยไทย ถ้าไม่มีดราม่าก็เหมือนกะเพราไม่ใส่พริก ไม่ว่าจะเป็นการแซวกันในกลุ่มเพื่อนแบบถึงพริกถึงขิง หรือดราม่าความรักที่บางทีก็กลายเป็นไวรัลในโซเชียล แต่สิ่งที่ทำให้ชุมชนของชาวเราแข็งแกร่งคือ “มิตรภาพ” เพื่อนในวงการนี้พร้อมซัพพอร์ตกันสุด ๆ ไม่ว่าจะยามทุกข์หรือยามสุข เป็นความอบอุ่นที่หาได้ยากในสังคมปัจจุบัน
4. งานอดิเรกที่ไม่ธรรมดา
นอกจากปาร์ตี้และแฟชั่นแล้ว เกย์และกะเทยไทยยังมีงานอดิเรกที่หลากหลาย บางคนเป็นสายครีเอเตอร์ ทำคอนเทนต์ TikTok จนยอดวิวพุ่ง บางคนเป็นสายธรรมะ เข้าวัดทำบุญขอพรให้ได้ผัวดี ๆ หรือแม้แต่สายอาชีพที่จริงจังอย่าง makeup artist ช่างผม หรือเจ้าของธุรกิจเล็ก ๆ ที่ประสบความสำเร็จ เรียกว่ามีครบทุกแนวเลยทีเดียว
5. ภาษาและวัฒนธรรมความปากแซ่บ
ถ้าจะให้พูดถึงอะไรที่เป็นซิกเนเจอร์ของเกย์และกะเทยไทย ต้องยกให้เรื่อง “ภาษา” คือยืนหนึ่งและการเม้าท์มอยที่แซ่บถึงทรวง คำสแลงอย่าง จึ้ง ปังปุริเย่ อุ หรืออดทนจนกว่าจะแลนด์ คำพวกนี้ไม่ได้แค่ทำให้การคุยสนุกขึ้น แต่ยังกลายเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมป๊อปไทยไปแล้ว บางครั้งแค่ฟังเพื่อนกะเทยเล่าเรื่องชีวิตประจำวันก็เหมือนดูซิตคอมตอนสั้น ๆ ที่ทั้งฮาและมีแง่คิด แถมการใช้ภาษายังมีพลังในการสร้างสรรค์ หรือแม้แต่ใช้มีมตลก ๆ ในตำนานมาเป็นตัวแทนในการแสดงออกทางอารมณ์บนโลกออนไลน์