สวัสดีเพื่อน ๆ ชาวจ๊อกจ๊อกทุกคน วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับเครื่องดื่มสุดปังที่ไม่ได้แค่ดีต่อใจ แต่ยังดีต่อร่างกายแบบเต็มสิบไม่หัก! นั่นก็คือ น้ำลูกเอลเดอร์เบอร์รี่ ค่ะ เจ้าผลไม้สีม่วงเข้มลูกจิ๋ว ๆ ที่เค้าว่ากันว่าเป็นยาอายุวัฒนะตั้งแต่สมัยโบราณ แถมยังมีงานวิจัยมารองรับว่าเด็ดจริง โดยเฉพาะเรื่องการช่วยคุมน้ำตาลในเลือด บอกเลยว่านี่คือซูเปอร์ฮีโร่ในแก้วที่คุณต้องลอง
ลูกเอลเดอร์เบอร์รี่คืออะไร? ทำไมถึงปังขนาดนี้?
ลูกเอลเดอร์เบอร์รี่ (Elderberry) เป็นผลไม้จากต้น Sambucus ที่เติบโตในแถบยุโรปและอเมริกาเหนือ ชาวบ้านสมัยก่อนเค้าใช้กันมานานเป็นร้อย ๆ ปีแล้วค่ะ ไม่ว่าจะต้มเป็นน้ำเชื่อม แช่อิ่ม หรือแม้แต่ทำเป็นยาแก้หวัด แต่ที่ทำให้มันดังเปรี้ยงปร้างในยุคนี้คือ สารต้านอนุมูลอิสระอย่าง แอนโทไซยานิน ที่ซ่อนอยู่ในผลสีม่วงเข้มนี่แหละ แถมยังมีวิตามินซีและไฟเบอร์แบบจัดเต็ม เรียกว่าเป็นผลไม้สายสู้ชีวิตจริง ๆ
คุมน้ำตาลในเลือดได้ยังไง?
เพื่อน ๆ ที่กังวลเรื่องน้ำตาลในเลือดฟังทางนี้ มีงานวิจัยเจ๋ง ๆ พบว่าน้ำลูกเอลเดอร์เบอร์รี่ช่วยเพิ่มความไวของอินซูลินได้ดีเว่อร์ แปลว่าร่างกายเราจะจัดการน้ำตาลได้เก่งขึ้น ไม่ปล่อยให้มันพุ่งปรี๊ด แถมยังช่วยลดการอักเสบในร่างกาย ซึ่งเป็นตัวการที่ทำให้ระดับน้ำตาลแกว่ง ๆ อีกด้วย เรียกง่าย ๆ ว่า ดื่มแล้วเหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวคอยจัดระเบียบน้ำตาลในเลือดให้อยู่หมัด!
ดื่มแล้วได้อะไรเพิ่มอีกบ้าง?
ไม่ใช่แค่เรื่องน้ำตาลนะจ๊ะ น้ำลูกเอลเดอร์เบอร์รี่ยังเป็นขวัญใจสายหวัด เพราะมันช่วยบูสต์ภูมิคุ้มกันได้แบบสุดปัง เหมาะกับคนที่เจออากาศแปรปรวนแล้วจามไม่หยุด แถมยังช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง เพราะสารต้านอนุมูลอิสระเค้าจะไปสู้กับเจ้าพวกร้ายที่ทำให้หน้าเราโทรม ดีงามขนาดนี้ ไม่ลองไม่ได้แล้ว
เอาไปทำอะไรกินดี?
- น้ำลูกเอลเดอร์เบอร์รี่เย็นฉ่ำ ผสมน้ำลูกเอลเดอร์เบอร์รี่เข้มข้นกับน้ำเย็น ๆ เติมน้ำผึ้งนิดนึง บีบมะนาวหน่อย อื้อหือ! ชื่นใจสุด ๆ
- สมูทตี้สายเฮลตี้ ปั่นกับกล้วย โยเกิร์ต และน้ำแข็ง อร่อยแถมอิ่มท้อง
- น้ำเชื่อมราดแพนเค้ก ต้มลูกเอลเดอร์เบอร์รี่กับน้ำตาลนิดหน่อย ได้น้ำเชื่อมสีสวย ราดแล้วฟินเว่อร์