ช่วงนี้เหมือนกระเเสวงการเพลงจะมาเเรง ถ้าใครได้ตามข่าวเกี่ยวกับวงการเพลงสากลก็คงจะได้เห็นMV เพลงใหม่ของ Katy Perry – Woman’s World ที่ปล่อยออกมาให้ชาวจ๊อกได้รับชมกันในเช้าวันศุกร์เวลา 6.00 น.ในเวลาประเทศไทย และแน่นอนด้วยความเป็นเจ้าแม่เอ็มวี เชื่อว่าเเคตตี้คงไม่ทำให้เราผิดหวังอย่างแน่นอน
ซึ่งหลังจากที่จ๊อกได้ดู MV ก็เห็นได้เลยว่าแคตตี้ตั้งใจให้มีคอนเซ็ปที่เกี่ยว Empowering Woman เพราะทั้งเสื้อผ้า พร็อพและองค์ประกอบหลายๆอย่าง มีความเชื่อมถึง Rosie The Riveter ซึ่งเป็นตัวละครจากแคมเปญโฆษณาชวนเชื่อที่ใช้ในสหรัฐอเมริกาเมื่อช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2
Rosie ที่หลายคนในยุคนี้มักเข้าใจว่าคือเครื่องหมายของ Empowering Woman เพื่อนหญิงพลังหญิงแต่ในอดีตนางเป็นเพียงตัวละครที่รัฐบาลสหรัฐฯในขณะนั้น ต้องการใช้ในการปลุกระดมผู้หญิงชั่วคราวให้ลุกขึ้นมาทำงานแทนแรงงานผู้ชายที่ขาดแคลนจากการไปรบหรือได้รับบาดแผลจากสงคราม
ซึ่งในช่วงทศวรรษ 1940 ถ้าชาวจ๊อกคิดว่าบรรดาหญิงจะรู้สึกยินดีปรีดา แบบเย้ฉันจะได้ทำงานแล้วพวกหล่อนคิดผิดจ่ะ พวกนางมีความยังคงมีความคิด ค่านิยมว่าผู้หญิงไม่ควรออกไปทำงาน อาจจะด้วยความกลัวที่ไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ทำให้รัฐบาลสหรัฐในตอนนั้นต้องงัดเอาออกมาทุกวิธี ไม่ว่าจะให้เงินเดือนที่สูง ชวนเชิญผ่านเพลงผ่านรูปภาพที่ปัจจุบันก็กลายเป็นไอคอนที่หลายคนหน้าจะรูู้จักกันดี We can do it
และที่เด็ดที่สุดคือถ้าทำงานสงครามจะจบเร็วขึ้นได้เจอผัวเร็วขึ้น แต่ถ้าไม่ทำงานโอกาสที่ทหารจากสงครามจะรอดกลับมาก็มีน้อยลงเท่ากับว่าผัวพวกนางก็มีโอกาสขิตมากกว่าเดิมนั้นเอง พูดมาขนาดถ้าเป็นจ๊อกก็เกียมสมัครงานไปเลยสิคะ หลังจากนั้นแนวคิดที่ผู้หญิงก็ทำงานนอกบ้านก็เริ่มได้รับความนิยมมากขึ้นจนกลายเป็นค่านิยมใหม่ “การทำงานเป็นสิ่งที่ทันสมัย”
แม้ว่ากระเเสตอบรับจะดีแต่ดูเหมือนจะดีเกินไป เพราะความตั้งใจเดิมรัฐบาลสหรัฐแค่ต้องการแรงงานผู้หญิงมาทำงานแค่ชั่วคราวเท่านั้น แต่ Rosie the Riveter ก็กลายเป็นสัญญาลักษณ์ของอำนาจแก่บรรดาชะนีน้อยใหญ่ ซึ่งไปไกลจากความหมายเดิมของตัวโรซี่ในยุคนั้นมาก
อีกหนึ่งซีนที่ปรากฎใน MV นี้ด้วยก็คือซีนที่แคตตี้และบรรดาสาวๆ นั่งอยู่บนคานเหล็ก ซึ่งน่าจะได้แรงบันดาลใจมาจากภาพถ่ายชื่อดัง “Lunch atop a skyscraper” ที่สะท้อนถึงความเป็นอยู่ของแรงงานอเมริกัน ที่อยู่เบื้องหลังมหานครตึกระฟ้า ที่ถึงแม้จะเป็นการจัดฉากแต่ภาพนี้ก็ยังกลายเป็นปรากฏการณ์แห่งยุคสมัยที่สหรัฐอเมริกาเริ่มพูดถึงการทำงานสร้างเนื้อสร้างตัวให้ประสบความสำเร็จเแบบ ‘อเมริกันดรีม’เป็นยุคที่รัฐบาลอัดฉีดเงินเพื่อสร้างงาน ทำให้ซีรีส์และหนังอเมริกันหลายเรื่อง ในทางกลับกันภาพนี้ก็ยังเชื่อมโยงถึงรากเหง้าความเป็นนิวยอร์กที่ก่อร่างสร้างขึ้นจากแรงงานหลากหลายเชื้อชาติ
แคตตี้ได้เผยว่าเพลง Woman’s World อยากให้เปรียบตัวนางที่เป็นพลังให้กับผู้หญิงทุกคนที่ฟังเพลงนี้แล้วเหมือนได้รู้สึกปลดล๊อคความเป็นตัวเเม่ออกมา และยังบอกอีกว่าหลังจากเป็นคุณแม่ลูก3 นางทำให้ยังเข้าใจ รักและเคารพในตัวคุณแม่ของนางมากขึ้นด้วย
ซึ่งหลังจากปล่อย MV Woman’s World ก็มีเสียงจากบรรดาแฟนคลับแบ่งออกเป็นสองฝ่ายมีทั้งฝ่ายที่รู้สึกว่ามันอ่อมและฝ่ายที่รู้สึกว่ามันปัง งานนี้คงต้องรอแคตตี้ปล่อยอัลบั้ม 143 ในวันที่ 20 กันยายนนี้แล้วล่ะ ส่วนการ come back ของยัยเเคตตี้ในครั้งนี้จะรอดหรือร่วงก็ต้องให้ทุกคนไปรองไปตัดสินกันดูเองแล้วแหละ
