หลังจากที่มีเพจเจ๊มอย 108 ได้ออกมาเล่านิทานเจ้าชายอลาดินกับอินฟลูฯสาว หลายคนก็คงเดาได้ไม่ยากนั่นคือ ฉลามจัส นักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย และมิกซ์เฉลิมศรี นั่นเอง
เจ้าชายอะลาดิน ซึ่งมีภาพลักษณ์เป็นคนน่ารัก เฟรนด์ลี่ และกำลังคบกับเจ้าหญิงอินฟลูชื่อดัง ถูกแฉว่าติดหนี้รวมเกือบ 2 ล้านบาท โดยมีพฤติกรรมหลอกลวงทั้งกิ๊กเก่าและคนใกล้ชิด เช่น ขอซื้อรถเบนซ์จากกิ๊กเก่าแต่ไม่ผ่อนต่อ รูดบัตรเครดิตเสริมของกิ๊กเก่าซื้อของแบรนด์เนมแล้วไม่จ่ายคืน และยืมเงินเพื่อนของกิ๊กเก่าแต่ไม่คืน อะลาดินยังอวดรวยในโซเชียล ทั้งซื้อแอร์เมสให้แฟนและรถป้ายแดง แต่กลับไม่เคลียร์หนี้สิน ด้านเจ้าหญิงอินฟลูรับรู้เรื่องนี้และพยายามช่วย แต่สุดท้ายก็เงียบไป เจ้าหนี้ขู่แจ้งความหากอะลาดินไม่เคลียร์หนี้ในสัปดาห์หน้า โดยระบุว่ามีหลักฐานแน่นหนา และเตือนว่าอย่าอ้างไม่มีเงินแต่ใช้ชีวิตหรูหราเกินหน้าเจ้าหนี้

ต่อมาทางฉลามจัสก็ได้โพสต์ข้อความชี้แจงผ่านอินสตาแกรมว่า
ตัวผมขอชี้แจงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นดังนี้นะครับ
- ตัวผมและคู่กรณีไม่ได้มีสถานะเป็นแฟนกันหรือลึกซึ้งมากกว่านั้น (ผมมีแฟนคนเดียว) เขาทักมาหาผมเชิงจีบ อยากลองพัฒนาความสัมพันธ์ ซึ่งผมไม่ได้ปิดกั้น ก็ลองคุยได้ ยอมรับตอนนั้นผมมีคนมาคุยเยอะมาก เพราะก็ไม่รู้จะปฏิเสธคู่กรณีด้วยเหตุผลอะไร ถ้าเขามาด้วยความรู้สึกดี และหวังดี
- หลังจากที่ผมได้เปิดตัวแฟนคนปัจจุบัน ตัวผมได้พยายามพูดคุยกับคู่กรณีเพื่อยุติความสัมพันธ์ แต่คู่กรณีไม่ยอม จึงได้คุยกันว่า ตัวผมไม่สามารถให้สถานะความสัมพันธ์ที่คู่กรณีต้องการได้ ตัวผมจึงได้ให้สถานะคู่กรณีแค่เพียงผู้จัดการ เพื่อเป็นการรักษาน้ำใจ และความหวังดีจากตัวคู่กรณี และทางตัวผมได้รับปากกับแฟนว่าจะเคลียปัญหานี้ด้วยตนเอง
- บัตรเครดิตเสริมทางตัวคู่กรณีได้ทำให้โดยตัวผมไม่เคยมีการร้องขอ โดยค่าบัตรในแต่ละครั้งทางคู่กรณีไม่เคยเรียกร้องให้จ่ายสักครั้ง แต่ทางตัวผมเองในบางครั้งได้มีการขอจ่ายคืน เพราะด้วยความเกรงใจ แต่ในยอดครั้งสุดท้าย ทางตัวผมไม่ได้มีการจ่ายคืนเพราะทางคู่กรณีได้เต็มใจให้ในทุกครั้ง แต่ในครั้งนี้เกิดจากคู่กรณีไม่พอใจที่ต้องยุติความสัมพันธ์กับตัวผม ซึ่งเกิดจากคู่กรณีเริ่มล้ำเส้น เริ่มไม่พอใจเมื่อตัวผมได้ไปหาแฟนของตัวผมเอง และทางคู่กรณีได้มีการพูดจากแขวะ เหน็บแนมแฟนผมซึ่งเป็นเหตุผลให้ผมอยากยุติความสัมพันธ์
- ในส่วนของรถยนต์ที่ต้องการซื้อต่อจากคู่กรณีนั้น ทางตัวผมได้มีการแจ้งมาสักพักแล้วว่าจะไม่มีการซื้อขายต่อจากคู่กรณีเพื่อไม่อยากให้มีอะไรติดค้าง หรือเป็นพันธะต่อกันอีก
- ตลอดระยะเวลาที่พูดคุยในความสัมพันธ์กับคู่กรณี ทางคู่กรณีได้พาตัวผมไปพบเจอผู้หลักผู้ใหญ่ในวงการ คนมีหน้ามีตา มีชื่อเสียงในสังคม และจะคอยแสดงออกในเชิงข่มขู่ทุกครั้งที่ตัวผมต้องการจบความสัมพันธ์ แม้กระทั่งตัวผมเคยนำคุณแม่มาพูดคุยและอธิบาย เพราะเห็นว่าทางคู่กรณีเป็นผู้ใหญ่แล้ว ด้วยความเกรงใจแต่ทางคู่กรณีก็ไม่ยินยอมจะจบความสัมพันธ์
- ตัวผมเองไม่เคยรู้สึกมองคู่กรณีไปมากกว่าผู้ใหญ่ใจดีที่เข้ามาเพื่อคอยซัพพอร์ตอนาคต แต่ด้วยคำพูด และการกระทำที่ดูแลเอาใจใส่จากตัวผม อาจจะทำให้คู่กรณีมีการเข้าใจผิดจนทำให้เกิดความคาดหวังในความสัมพันธ์ และผิดหวัง จนเกิดประเด็นดังกล่าวขึ้น
สุดท้ายนี้ ตลอดระยะเวลาที่พูดคุยในความสัมพันธ์ทางตัวคู่กรณีเองได้มีแฟนที่คบหาดูใจอยู่แล้ว ซึ่งทำให้ตัวผมไม่เข้าใจในความพยายาม และความต้องการของคู่กรณีว่าต้องการสิ่งใดจากตัวผม
