รายการหาคู่เดตแนวใหม่จากญี่ปุ่น “The Boyfriend” ที่เพิ่งลงบน Netflix ไปก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดี ในฐานะรายการเรียลลิตี้แนวหาคู่รักเพศเดียวกัน (Same-sex dating) รายการแรกของประเทศ

แม้ว่ารายการจะดำเนินไปอย่างช้า แต่กลับทำให้ผู้ชมลุ้น และ ชวนติดตาม ว่าใครจะคู่กับใคร ไม่มีการแสดงความรู้สึกออกนอกหน้า ทุกอย่างเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ
ในช่วงแรก ผู้เข้าแข่งขันต้องเขียนจดหมายถึงกันเอง บางคนก็กลัวว่าจะไม่มีใครเขียนถึงตัวเอง นอกจากนั้นยังมีคณะกรรมการคอยให้ความเห็น ซึ่งช่วยให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนมีเพื่อนดูด้วย

“The Boyfriend” เน้นไปที่การค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ ไม่มีใครถูกบังคับให้ต้องชอบใคร ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ
แม้ว่าจะไม่มีฉากเร้าร้อน แต่ “The Boyfriend” กลับเป็นรายการที่ดูแล้วสบายใจ อบอุ่น เหมาะสำหรับคนที่มองหาอะไรที่ดูจริงใจ ไม่ใช่แค่รายการเรียลลิตี้ ที่เน้นความตื่นเต้น
แม้ว่ารายการจะดำเนินไปอย่างช้า แต่กลับทำให้ผู้ชมลุ้น และ ชวนติดตาม ว่าใครจะคู่กับใคร ไม่มีการแสดงความรู้สึกออกนอกหน้า ทุกอย่างเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ

ในช่วงแรก ผู้เข้าแข่งขันต้องเขียนจดหมายถึงกันเอง บางคนก็กลัวว่าจะไม่มีใครเขียนถึงตัวเอง นอกจากนั้นยังมีคณะกรรมการคอยให้ความเห็น ซึ่งช่วยให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนมีเพื่อนดูด้วย
“The Boyfriend” เน้นไปที่การค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ ไม่มีใครถูกบังคับให้ต้องชอบใคร ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ
แม้ว่าจะไม่มีฉากเร้าร้อน แต่ “The Boyfriend” กลับเป็นรายการที่ดูแล้วสบายใจ อบอุ่น เหมาะสำหรับคนที่มองหาอะไรที่ดูจริงใจ ไม่ใช่แค่รายการเรียลลิตี้ ที่เน้นความตื่นเต้น

รายการนี้รวบรวมชายหนุ่มสุดคิ้วท์ 9 คน มาอยู่ในบ้านพักสุดหรูริมชายหาดนอกโตเกียว เพื่อตามหาคนที่ใช่ หรืออาจจะได้เป็นเพื่อนที่ดีก็ได้ รายการเน้นย้ำว่าเป็น “เรื่องราวของความรักและมิตรภาพ”
“The Boyfriend” มีความแตกต่างไปจากรายการหาคู่แบบเดิมๆ ที่มักจะเน้นความตื่นเต้น เร้าใจ ผู้เข้าแข่งขันแย่งชิงกันเอง แต่รายการนี้กลับอบอุ่น สบายตา มีผู้เข้าแข่งขันหน้าตาดี สไตล์การแต่งตัวก็ดูดี สถานที่ถ่ายทำก็สวยงาม ตัวรายการก็ดำเนินไปอย่างช้าๆ เน้นการค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ ไม่มีการเร่งรีบ หรือ บังคับ

ผู้เข้าแข่งขันต่างก็เกรงใจซึ่งกันและกัน คอยดูแลซึ่งกันและกัน เช่น ช่วยกันทำอาหาร แทนที่จะมีการถามคำถามแบบสอดรู้สอดเห็น คำถามในรายการนี้จะสุภาพ เน้นไปที่การทำความรู้จักกัน เช่น “คุณอยากเข้าร่วมรายการนี้เพราะอะไร” หรือ “ผมไม่เคยจริงจังกับความรักเลย ผมหวังว่าจะได้เจอคนที่ดี”
แม้ว่ารายการจะดำเนินไปอย่างช้า แต่กลับทำให้ผู้ชมลุ้น และชวนติดตามว่าใครจะคู่กับใครไม่มีการแสดงความรู้สึกออกนอกหน้า ทุกอย่างเป็นไปอย่างเป็นธรรมชาติ

ในช่วงแรก ผู้เข้าแข่งขันต้องเขียนจดหมายถึงกันเอง บางคนก็กลัวว่าจะไม่มีใครเขียนถึงตัวเอง นอกจากนั้นยังมีคณะกรรมการคอยให้ความเห็น ซึ่งช่วยให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนมีเพื่อนดูด้วย

“The Boyfriend” เน้นไปที่การค่อยๆ พัฒนาความสัมพันธ์ ไม่มีใครถูกบังคับให้ต้องชอบใคร ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามธรรมชาติ แม้ว่าจะไม่มีฉากเร้าร้อน แต่ “The Boyfriend” กลับเป็นรายการที่ดูแล้วสบายใจ อบอุ่น เหมาะสำหรับคนที่มองหาอะไรที่ดูจริงใจ ไม่ใช่แค่รายการเรียลลิตี้ ที่เน้นความตื่นเต้น